ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) คือ สิ่งที่สะท้อนตัวตน หรือบุคลิกภาพของคนแต่ละยุคสมัยได้ชัดเจน ยิ่งในยุคนี้ เรียกได้ว่า Generation คนยุคใหม่ชัดขึ้น กล้าคิด กล้าทำ กล้าเลือกสิ่งใหม่ๆ และต้องดีที่สุดสำหรับตัวเอง ที่สำคัญ เน้นความทันสมัย ตามวิถีชีวิตดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ด้วยการใช้เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมต่างๆ เป็นตัวช่วยในการใช้ชีวิตแบบชิคๆ คูลๆ แต่เต็มไปด้วยคุณภาพ
มีเวลาใส่ใจดูแลสุขภาพ : การบาลานซ์ชีวิตที่ดี ต้องเริ่มต้นจากการมีสุขภาพดี ดังนั้น จึงปฎิเสธไม่ได้ ที่จะเห็นคนรุ่นใหม่หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เรียกได้ว่าทุก Generation ตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน หรือกลุ่มคนวัยเกษียณ เริ่มมาเข้าฟิตเนส ออกกำลังกาย เล่นโยคะ ทำกิจกรรมปั่นจักรยาน หรือการวิ่ง จนพัฒนาไปสู่การผันตัวเองเป็นเทรนเนอร์ สร้างช่องทางผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อสร้างคอนเทนต์ดีๆ เรื่องเทคนิคการออกกำลังกาย นอกจากจะมีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังกลายเป็นช่องทางสร้างรายได้อีกด้วย
นิยมอาหารคลีน : หันมาใส่ใจเรื่องการรับประทานอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารคลีน หรือจำพวก Plant-based อาหารที่ทำมาจากพืชทดแทนการใช้เนื้อสัตว์ ซึ่งกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าตลาดเนื้อเทียมทั่วโลก มีการเติบโตมากขึ้นถึง 23.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวราวๆ 14.7% รวมถึงผักและผลไม้สด ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเช่นกันสำหรับสายคนรักสุขภาพ
Work Hard Play Hard : ใช้ชีวิตแบบเต็มที่ทุกขณะ ทั้งในเวลาทำงาน และวันหยุดพักผ่อนก็เลือกออกเดินทางท่องเที่ยว พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับกลุ่มเพื่อน ไม่ว่าจะเป็น รวมก๊วนปั่นจักรยาน , ตั้งแคมป์ปิ้ง , ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เพื่อใช้เป็นช่วงเวลาในการแสวงหา Passion หรือแรงบันดาลใจใหม่ๆในการใช้ชีวิต
ไม่หยุดนิ่งในการเรียนรู้ : พยายามพัฒนาทักษะตัวเอง Reskills และ Upskills ทั้งในสิ่งที่ตัวเองชอบ หรือสิ่งใหม่เพื่อครีเอท และสร้างสรรค์ หรือแม้แต่การหันมาดูแลตัวเองเพื่อให้ดูดีอยู่เสมอ
เลือกใช้จ่ายกับแบรนด์ที่ยึดหลัก ESG ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน : จากข้อมูลผลสำรวจ “ผู้บริโภครักษ์โลก” พบว่า มีผู้บริโภคทั่วโลกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้น 20% เนื่องจากกังวลต่อปัญหาสภาพภูมิอากาศที่กำลังแปรปรวนในปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งบรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง
เลือกออมเงินให้เป็น : เลือกออมเงินให้เป็น : วิธีการออมเงินที่ดี คือ ควรแบ่งออกเป็น 5-10% ของเงินเดือน บางคนอาจเลือกซื้อกองทุน หรือประกันดีๆ สักเล่ม เช่น ประกันสุขภาพวัยทำงาน, ประกันการเดินทาง, ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล พกติดตัวไว้เป็นความอุ่นใจในการใช้ชีวิต หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในอนาคต เพราะไม่ต้องหาเงินสำรองจ่ายในยามฉุกเฉิน เป็นตัวช่วยสำคัญแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของตัวเองและคนในครอบครัว
Healing ตัวเองให้เป็น ด้วยทัศนคติบวก : ค่านิยมที่ดีของคนรุ่นใหม่ นอกจากการมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบคูลๆแล้ว ต้องมีทัศคติที่คูลตามไปด้วย ดังนั้น หากในบางช่วงเวลา อาจเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่เป็นใจ เลือกปล่อยวางให้เป็น ยิ้มให้ได้ หมั่นฝึกการใช้สมาธิ และสติในการแก้ปัญหาเพื่อหาทางออก เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นก็ตามแต่ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องธรรมดา
เขียนโดย...แอดมินนุ่น